วิจารณ์ Samsung Gear S2 (ใช้งานจริง)

        Samsung Gear S2 นาฬิกาอัจฉริยะระดับไฮเอนด์หน้าจอหมุนได้ นับเป็นนาฬิกาอัจฉริยะ รุ่นที่ 8 จาก Samsung เผยโฉมอย่างเป็นทางการในประเทศไทยครั้งแรกในงาน Thailand Mobile Expo 2015 และวางจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการเมื่อต้นเดือน พฤศจิกายน 2558 ที่ผ่านมา โดยในไทยวางจำหน่าย 2 รุ่น ได้แก่ Gear S2 Sport และ Gear S2 Classic ( รุ่น 3G ไม่นำเข้ามาจำหน่ายเนื่องจากติดปัญหาการพัฒนาร่วมกับผู้ให้บริการโครงข่าย คงต้องรอสักพักครับ ) ใช้ระบบปฏิบัติการ Tizen OS และมีคุณสมบัติกันน้ำกันฝุ่น มาตรฐาน IP68








Gear S2 Sport จำหน่ายราคา 9,900 .- และ Gear S2 Classic 11,900.- โดยคุณสมบัติของทั้งสองรุ่นเหมือนกัน แตกต่างกันที่หน้าตาวงแหวนหน้าจอที่ใช้หมุน สายของรุ่น Classic สามารถเปลี่ยนใช้ได้กับนาฬิกาธรรมดาทั่วๆไปได้ (ใช้สายขนาดหัว 20 มม.)  ส่วน Gear Sport ถอดเปลี่ยนได้เช่นกัน แต่จะใช้ได้เฉพาะสายของรุ่นตัวเองเท่านั้น ปัจจุบันมีสายหลากหลายสีหลายแบบ ออกวางจำหน่ายแล้ว

ข้อดี Gear S2
- หน้าตาเป็นมิตร สวมใส่ง่ายมีขนาดจอกำลังพอดี เหมาะทั้งผู้หญิงข้อมือเล็กและผู้ชายข้อมือใหญ่ 
- Tizen OS ถูกพัฒนาให้มีความเสถียรและลื่นไหลมาก กว่า Android Wear 
Tizen OS มีแอพให้โหลดมากกว่า และมีเกมส์ให้โหลดเล่น ในขณะที่ Android Wear ไม่มี
- มีรูปแบบหน้าปัดให้ใช้และโหลดมากที่สุด
- เป็น Wireless Charge ในรุ่น Classic สามารถวางชาร์จได้กับ Wireless Charge ได้กับทุกรุ่น  ส่วนรุ่น Sport ไม่สามารถวางกับตัว Wireless Charge รุ่นอื่นได้ เนื่องจากติดต้นขั้วสายนาฬิกาซะงั้น
- นอกจากออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการในการใช้งานแล้ว รุ่นนี้ยังตอบโจทย์ในเรื่องของการสวมใส่ (เนื่องจากนาฬิกาจัดเป็นสินค้าแฟชั่น)

ข้อสังเกต Gear S2

- เนื่องจากใช้ระบบปฏิบัติการ Tizen จึงทำให้ไม่สามารถใช้แอพดีๆ ใน Android ได้ เช่น Google Map, Translate
- รุ่น Classic ความคลาสสิกน้อยไปนิด ถ้าเทียบกับคู่แข่ง เช่น Moto360
- CPU 2core ในขณะที่คู่แข่งอื่นๆใช้ 4core






ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

รู้จักกลยุทธ์ ZARA แบรนด์เสื้อผ้าระดับโลก

รู้จักเวียดนาม ( ตอนที่ 2 : ประเทศที่น่าจับตา )

หมู่บ้านศิลปิน หัวหิน